เทควันโด
ประวัติเทควันโด
เท แปลว่า มือ
วัน แปลว่า เท้า
โด แปลว่า สติปัญญา
วัน แปลว่า เท้า
โด แปลว่า สติปัญญา
มีการค้นพบประวัติการฝึกฝนวิชาเทควันโดของชาวเกาหลีมานานนับ2000 ปีแล้ว ซึ่งหลังจากที่ประเทศเกาหลีได้รับการประกาศเอกราช เป็นอิสระภาพจากการปกครองของประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซอง คุก ดี แห่งสำนัก Teakyondo สาธิตศิลปะป้องกันตัว เทควันโดขึ้นต่อหน้าประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ฯพณฯ นาย Syngman Rhee ในโอกาส วันคล้ายวันเกิดของอาจารย์ ซอง คุก ดี ท่านได้แสดงให้เห็นความแตกต่างของวิชาศิลปะการต่อสู้แบบเทควันโด และคาราเต้ ของญี่ปุ่น อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนับว่าเป้นครั้งแรกของ การจุดประกายวิชานี้ ขึ้นมาให้สาธารณชนได้รับรู้ ต่อมาก็ได้มีการเปิดโรงฝึก Gymnasium ของวิชาเทควันโดไปทั่วประเทศ ค.ศ.1950-1953 หลังสงครามเกาหลีวิชา เทควันโดได้รับความ นิยมเป้นอย่างมาก มีการผลิตและส่งผู้เชี่ยวชาญ ครูฝึกสอนวิชาเทควันโด กว่า 2000 คนไปเผยแพร่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกลแะมี การเสนอให้วิชาเทควันโด เป็นศิลปะป้องกันตัวประจำชาติเกาหลี ในปี ค.ศ.1971 ตามมาด้วยการก่อตั้งศูนย์เทควันโดแห่งชาติ Kukkiwon ที่กรุงโซลเพื่อเป้นศูนย์กลาง การฝึก,การแข่งขัน,การบริหาร และการเผยแพร่ วิชาเทควันโดตราบจนปัจจุบัน
28 พฤษภาคม 1973 มีการก่อตั้งสหพันธ์เทควันโดสากล (The World Taekwondo Federation หรือ WTF) เพื่อดูแลประเทศ สมาชิกกว่า 108 ประเทศ และปีเดียวกันนี้เอง ก้ได้การเริ่มแข่งขันชิงแชมป์เทควันโดระดับโลกขึ้นและได้จัดแข่งเป็นประจำทุก 2 ปีตลอดมา
เมื่อแรกก่อตั้งมีสมาชิกเพียง 50 ประเทศ แต่ในปัจจุบันมีถึงกว่า 150 ประเทศ ประธานสหพันธ์คนแรก และคนปัจจุบันได้แก่ นาย Un Yong Kim เป้นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการบรรจุกีฬาเทควันโด ไว้ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ในปี ค.ศ.1974และกีฬาโอลิมปิก ปี 2000 ที่ประเทศออสเตรเลีย
ลำดับสายของเทควันโด
- เริ่ม สายขาว
- 10 สายเหลือง1 (สายส้ม-ในบางยิม)
- 9 สายเหลือง2
- 8 สายเขียว1 (สีเขียวขี้ม้า-ในบางยิม)
- 7 สายเขียว2
- 6 สายฟ้า1 (ม่วง-ในบางยิม )
- 5 สายฟ้า2 (น้ำเงิน-ในบางยิม)
- 4 สายน้ำตาล1
- 3 สายน้ำตาล2
- 2 สายแดง1
- 1 สายแดง2

ตัวอย่างท่าแตะกีฬาเทควันโด
1. ท่าเตะด้านหน้า (Front kick)


ยกเข่าข้างที่จะเตะให้สูง ย่อเข่าเล็กน้อยเพื่อการทรงตัว ดีดขาออกไปให้เร็วโดยการใช้สะโพกช่วย เหยียดเท้าให้เต็มที่ และพับขา กลับมาในท่าเริ่มต้น
2. ท่าเตะด้านข้าง (Sid kick)
ยกเข่าข้างที่จะเตะขึ้นแล้วหมุนตัว ให้สั้นเท้าชี้ไปทางเป้าหมายหันฝ่าเท้าไปทางด้านหน้า ในลักษณะสันเท้าใกล้สะโพกขาที่พับอยู่ขนานกับพื้น ออกแรงถีบให้เร็ว หันหน้าตามองผ่านไหล่ พับขากลับมาในท่าเริ่มต้น
3.ท่าเตะตวัด (Round kick)
ยกเข่าข้างที่จะเตะขึ้น ขาท่อนล่างเป็นจุดหมุนบิดสะโพกพร้อมส่งแรงเตะตวัดออกไป จุดปะทะอยู่ที่หลังเท้า หรือจมูกเท้า พับขากลับมาอยู่ในท่าเริ่มต้น
4.ท่าเตะเหยียบลง (Chop kick)

ยกขาข้างที่จะเตะขึ้นแทงเข่าให้สูง พร้อมเหยียดเท้าให้สูงตบลงอย่างรวดเร็ว โดยใช้ฝ่าเท้าตบลงสู่เป้าหมาย
อ้างอิง
http://www.thannam.net/taekwondo.php?tkd=338&taekwondoName=
https://www.gotoknow.org/posts/286472
http://www.thannam.net/taekwondo.php?tkd=105&taekwondoName=
http://warunrat.wikispaces.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น